มองทำงานหนักไม่หยุดกับ Blind ซีรีส์สืบสวนระทึกขวัญกำลังมาสั่นประสาทอีกครั้ง ปฏิบัติการจับฆาตกรคลั่งนำโดยตำรวจสายสืบหัวร้อน แทคยอน แท็กทีมมากับ ฮาซอกจิน และ จองอึนจี APINK งานนี้เตือนไว้ก่อนว่าต้องมียาแก้ปวดเอาไว้ข้างกาย เปิดมาไม่ทันไรก็โยนปมมากมายชวนให้ไมเกรนกำเริบกันเสียแล้ว

เรื่องย่อ

Blind เริ่มขึ้นด้วยเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ณ เมืองมูยอง พบศพหญิงสาวถูกสังหารพร้อมรอยแผลบริเวณปากที่ถูกกรีดขึ้นไปเป็นแนวยาวซึ่งเป็นลายเซ็นของคนร้ายใน คดีฆาตกรรมโจ๊กเกอร์ ความอุกอาจดังกล่าวเป็นเหตุให้ รยูซองจุน (รับบทโดย แทคยอน) ตำรวจสายสืบหนุ่มไฟแรงต้องลงมือตามหาฆาตกรด้วยตัวเอง เขาเริ่มค้นหาเบาะแสจนสาวไปถึงตัว จองมันชุน ชายชาวจีนที่ลักลอบอาศัยอยู่ในเกาหลี หลักฐานสำคัญบางประการทำให้ตำรวจสันนิษฐานว่าจองมันชุนเป็นคนลงมือฆ่าเหยื่อ เขาจึงถูกควบคุมตัวและเข้าสู่การพิจารณาความผิดในชั้นศาล

ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวคือ รยูซองฮุน (รับบทโดย ฮาซอกจิน) ผู้เป็นพี่ชายของสายสืบรยูซองจุน พร้อมกับ คณะลูกขุนทั้ง 9 คน ที่จำเลยเป็นฝ่ายร้องขอให้มีส่วนร่วมในการพิจารณาคดี หลักฐานและคำให้การของพยานบ่งชี้ว่าจองมันชุนมีความผิดจริง เขาจึงถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หากแต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความลึกลับที่เข้าปกคลุมชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว ทั้งยังเชื่อมโยงสู่อดีตที่อยากลืมของสองพี่น้องตระกูลรยู พวกเขาจึงต้องสืบหาเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกับต้องรับมือกับคนร้ายตัวจริงที่ยังคงออกล่าเหยื่ออย่างไม่เกรงกลัว

บทบาทนักแสดง

• แทคยอน รับบทเป็น รยูซองจุน ตำรวจสายสืบฝีมือดี ความใจร้อนและหัวรั้นทำให้เขามักใช้วิธีที่เด็ดขาดในการจับกุมคนร้าย ในอดีตรยูซองจุนหมกมุ่นอยู่กับการต่อยตีจนคนรอบตัวเป็นห่วง กระทั่งวันนี้เขายังคงชอบเลียนแบบพฤติกรรมของฆาตกรเพื่อวิเคราะห์แรงจูงใจไปสู่การคลี่คลายคดี
• ฮาซอกจิน รับบทเป็น รยูซองฮุน ผู้พิพากษาประจำศาลอาญาเมืองมูยอง เขาเชื่อว่ากฎหมายเป็นเครื่องมือที่เที่ยงตรงที่สุดในการช่วยเหลือผู้คนและลงโทษคนร้าย รยูซองฮุนเติบโตมาด้วยความซื่อสัตย์ ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ และให้ความสำคัญกับความยุติธรรมมากกว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือด
• จองอึนจี รับบทเป็น โจอึนกี นักสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ผู้อบอุ่นและใจดี การเติบโตมาในครอบครัวยากจนทำให้เธอเข้าใจคนที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันและตั้งใจสนับสนุนพวกเขาเหล่านั้น โจอึนกีถือคติว่าแม้ชีวิตนี้จะไม่สามารถกอบกู้โลกได้ แต่เธอจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลืออย่างน้อยหนึ่งคน

Blind ซีรีส์ทริลเลอร์-สืบสวนสอบสวนเรื่องล่าสุดของช่อง tvN ที่ได้มือฉมังแห่งวงการอย่าง ผู้กำกับชินยงฮวี ที่ล้วนผ่านการทำงานแนวเดียวกันมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็น Tunnel (2017) Cross (2018) และ Voice 4 (2021) สร้างสรรค์บทโดย นักเขียนควอนกีกยอง ที่เคยเป็นนักเขียนร่วมในซีรีส์ Andante (2017) มาเพียงเรื่องเดียว เห็นเป็นมือใหม่แต่คงไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะโยนปมเอาไว้ตั้งแต่ออกตัวทำเอาใจจดจ่อรอตอนต่อไปแทบไม่ไหว ส่วนจะสนุกน่าติดตามขนาดไหน มีประเด็นไหนน่าสนใจบ้าง เก็บมารีวิวให้เช่นเคย

ไม่รู้ใครมาร้ายหรือมาดี ทุกนาทีมีแต่ความน่าสงสัย

Blind ตีหัวเข้าบ้านด้วยสารพัดปมที่ผูกพันยุ่งเหยิงตั้งแต่ฉากแรก เขย่าความสงสัยด้วยเหตุการณ์ในอดีตที่เด็กชายกลุ่มหนึ่งกำลังหลบหนีจากการไล่ล่าของ ไอ้หมาบ้า ชายฉกรรจ์ที่จับพวกเขาไปกักขังใน ศูนย์สวัสดิการความหวัง ก่อนจะตัดกลับมายังปัจจุบันด้วยการกล่าวถึง คดีฆาตกรรมโจ๊กเกอร์ ที่เหยื่อไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็น ลูกสาวของไอ้หมาบ้า นั่นเอง ความเชื่อมโยงดังกล่าวชวนให้ขบคิดต่อไปว่าใครคนหนึ่งที่เคยรอดชีวิตจากการถูกไล่ล่าในอดีต จะหวนกลับมาแก้แค้นไอ้หมาบ้าที่ยังคงลอยนวลอยู่ก็เป็นได้ เปิดมาหนักหนาสาหัสขนาดนี้บอกเลยว่าคนดูคงต้องสวมบทโคนันช่วยไขปมเหนือชั้นสถานเดียว

อดีตของสองพี่น้อง รยูซองฮุน และ รยูซองจุน เป็นอีกหนึ่งเส้นเรื่องที่น่าสนใจมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดูเคลือบแคลงเหมือนมีกำแพงบางอย่างกั้นไว้ ความหวาดระแวงของคนดูที่ปะทุขึ้นทุกครั้งเมื่อพวกเขาสนทนาพูดคุยกัน โดยเฉพาะภาพในอดีตที่รยูซองจุนเคยใช้ความรุนแรงจนพี่ชายกลัวว่าเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นฆาตกร นอกจากนี้ซีรีส์ยังชี้ชวนให้เราเข้าใจว่าพวกเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์สวัสดิการความหวังไม่มากก็น้อย ส่วนสุดท้ายจะเฉลยออกมาหน้าไหนคงต้องจับตาดูกันไว้ให้ดี เชื่อว่ามีเรื่องพีคหลายตลบรอเราอยู่ที่ปลายทางอย่างแน่นอน

‘กฎหมาย’ และ ‘สืบสวนสอบสวน’ สององค์ประกอบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

พูดได้ว่า Blind เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นำทางด้วยเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับ การพิจารณาคดีในศาล (Courtroom Drama) นอกจากการเสียดสีกฎหมายแล้วยังใส่ความโลดโผนฉีกกรอบผ่าน คณะลูกขุนทั้ง 9 ที่จะมีบทบาทสำคัญไปตลอดทั้งเรื่อง ซีรีส์ยังคงเล่นกับความสงสัยของคนดูด้วยการเล่าพื้นเพชีวิต นิสัยใจคอ และวิธีการคิดที่แตกต่างกัน ก่อนจะเร่งดีกรีความระทึกขึ้นอีกระดับเมื่อคำตัดสินของพวกเขาในชั้นศาลได้กลายเป็นหายนะในชีวิตจริง เริ่มจากคณะลูกขุนในคดีดังกล่าวเริ่มทะยอยถูกไล่ล่าเอาชีวิตทีละคน นำมาซึ่งความหวาดระแวงที่เกิดขึ้นได้ทุกนาทีเพราะเรื่องนี้ฆาตกรนำทุกคนอยู่หนึ่งก้าวเสมอ

ขณะเดียวกันกลวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนให้เราตามหาว่า ใครเป็นคนร้าย (Whodunit) ยังคงเป็นท่ามาตรฐานในงานทริลเลอร์ที่ใช้การได้ดีอยู่เสมอ เปิดมาไม่ทันไรซีรีส์ก็ทำให้ตัวละครตกเป็นผู้ต้องสงสัยทีละคนสองคน บรรยากาศชวนสับสนอบอวลอยู่ตลอดทั้งอีพี เรียกว่าแพนกล้องไปที่ใครก็ทำให้เราเชื่อว่าคนนั้นมีลับลมคมในโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะรยูซองจุนที่แม้จะอยู่ในสถานะตำรวจสายสืบ ท้ายที่สุดเขาอาจกลายเป็นฆาตกรตามรอย จองบารึม (รับบทโดย อีซึงกิ) แห่งซีรีส์ Mouse (2021) ไปอีกคนก็ได้ใครจะไปรู้ หากผ่านความรู้สึกเหล่านี้มาแล้วคงเข้าใจดีว่าต่อมความอยากรู้อยากเห็นของเรามันทำงานหนักขนาดไหน

บีบหัวใจทุกนาที ไม่ปรานีแม้แต่ฉากเดียว

ความน่าสนใจที่ว่ามาทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก Blind ไม่มี ผู้กำกับชินยงฮวี ต้องยกความดีความชอบให้เป็นพิเศษที่ใช้อาวุธได้ถูกที่ถูกทางเสมอ ยังคงไว้ซึ่งลายเซ็นประจำตัวในฉากไล่ล่าของฆาตกร จังหวะตุ้งแช่ที่ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านไปกับความตื่นเต้นที่อยู่ตรงหน้า วิธีการฆ่าที่โหดยิ่งกว่าเดิม จัดเต็มความระทึกทั้งงานภาพ แสง สี และ เสียง ที่ได้มาตรฐานอย่างที่เคยสัมผัส คอซีรีส์ทริลเลอร์เชื่อขนมกินได้เลยว่าเราจะอิ่มเอมไปกับทุกองค์ประกอบในเรื่องอย่างจุใจ ส่วนใครขี้ตกใจขอแนะนำว่าไม่ควรดูตอนกลางคืน หลายฉากหลายตอนยังมีภาพศพที่ชวนหลอนมากอีกด้วย

นอกจากนี้ Blind ยังทำให้เราได้เห็น แทคยอน สลัดคราบหนุ่มฮามาเป็นตำรวจสายสืบมุทะลุ ถือเป็นบทบาทที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยโดยเฉพาะเมื่อเขาแสดงสีหน้าเหมือนฆาตกรโรคจิตทำเอาขนลุกไปตามกัน ทางด้าน ฮาซอกจิน ที่หลายคนติดภาพพ่อบ้านจากซีรีส์ Your House Helper (2018) ครั้งนี้พลิกขั้วกลายเป็นหนุ่มเคร่งขรึมอ่านใจยากไม่แพ้กัน ยังมี จองอึนจี ที่ตัวละครของเธอเปิดพื้นที่ให้โชว์ของมากกว่าเดิม ไหนจะบรรดาคณะลูกขุนที่ขนกันมาปั่นประสาทเต็มรูปแบบ บอกเลยว่าดูเรื่องนี้แล้วอาจมีระแวงคนข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัว

Blind เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคอทริลเลอร์น่าจะเก็บเข้าลิสต์กันไปเรียบร้อยหลังจากได้ดูสองตอนแรก ทั้งเนื้อหาสาระที่เฉลี่ยน้ำหนักระหว่างพาร์ทในศาลกับการไล่ล่าฆาตกรได้พอดิบพอดี โจมตีความไว้เนื้อเชื่อใจของคนดูด้วยสารพัดปมและตัวละครที่น่าสงสัย ดำเนินเรื่องด้วยบรรยากาศชวนตื่นเต้น ซาวด์ประกอบฉากที่ระทึกจนใจเต้นตึกตัก ลุ้นตัวโก่งไปกับการไล่ล่าจับฆาตกร ใครคุ้นเคยอยู่แล้วไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน ส่วนใครไม่เคยผ่านซีรีส์แนวนี้มาก่อนน่าจะเป็นโอกาสดีที่ได้ลอง ถึงจะผูกปมซับซ้อนแต่ดูไม่ยากอย่างที่คิด