เรื่องความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น เรื่องความแตกต่างอันมากมายของความฐานะและโอกาส คนที่อยู่เป็นเบี้ยล่างก็มุ่งหวังสร้างโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ไปหายใจอย่างคล่องปอดที่ด้านบน แต่การกระโดดขึ้นไปสูงได้นั้นไม่ใช่หนทางที่ง่ายอย่างแน่นอน ‘The White Tiger’ ชื่อไทย ‘พยัคฆ์ขาวรำพัน’ ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่พูดถึงในสิ่งนี้

เรื่องย่อหนัง ‘The White Tiger’
หนังเล่าเรื่องของ พลราม (Adarsh Gourav/อาดาร์ช กอราฟ) เจ้าของสตาร์ทอัปที่มั่งคั่งขึ้นมาในบังกาลอร์ แต่นั่นคือปัจจุบัน ส่วนอดีตของเขานั้นไม่มีใครคาดคิดว่ามันช่างแตกต่างจากวันนี้มากมาย
ชีวิตของเขาเกิดในเมืองที่แร้นแค้นทางตอนเหนือของอินเดีย อยู่กับย่า พ่อ และพี่ชาย ชีวิตที่ถูกตระกูลใหญ่ร่ำรวยขูดรีดมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่ง ความทะเยอทะยานและอยากจะหลุดพ้นจากชีวิตที่แสนห่วยของระบบชนชั้นวรรณะในประเทศตัวเอง

ในที่สุด เขาก็ได้มาเป็นคนขับรถของอโศก (Rajkummar Rao/ราจคุมมาร์ ราว) ลูกชายคนเล็กในตระกูลร่ำรวยที่ได้ไปเรียนถึงอเมริกา เขาดูเป็นคนมีหัวคิดก้าวหน้า ไม่เท่านั้น เขาอาจหอบหิ้วเอาสาวหัวสมัยใหม่อย่างพิ้งกี้ (Priyanka Chopra/ปริยันกา โชปรา โจนัส จากหนัง We Can Be Heroes, Baywatch และ Isn’t It Romantic) กลับมาด้วย แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่ค่อยมีความลงรอยกับพ่อและพี่ชายของเขาสักเท่าไหร่ แรกๆ ก็ดูเหมือนจะดี
![รีวิว] The White Tiger: ไก่ผู้ตรัสรู้กลายเป็นเสือ - #beartai](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2021/01/priyanka-rajkummar-adarsh-white-tiger-1200-1024x569.jpg)
การแหกกรงไก่ของพยัคฆ์ขาว
เป็นการเล่าประวัติที่ยาวนานทีเดียว จากเด็กน้อยที่อยู่ในบ้านหลังโทรมๆ อยู่ภายใต้การกดขี่ที่ได้ฟังแล้วรู้สึกหดหู่แทน พวกเขาเปรียบตัวเองเป็นไก่ที่อยู่ในกรง พวกมันถูกลากออกมาทีละตัว ตัดคอ เลือดสาดนองแล้วถอนขนออก ตัวอื่นที่เห็นตัวก่อนหน้าโดนอย่างนั้นก็ต้องกลัวและหงอจนไม่คิดจะต่อต้านขัดขืน สุดท้าย ทุกคนก็ยอมจำนนไม่มีใครกล้าหาญคิดก้าวขึ้นไป
คำว่า ‘เสือขาว’ นั้นหมายถึงเสือโคร่งตัวที่พบได้เพียงหนึ่งในพัน เป็นสิ่งที่หาพบได้ยาก และแน่นอนว่า พลราม คิดว่าเขาเป็นสิ่งนั้น เขาต้องการจะกระโดดสูงขึ้นมาท่ามกลางผู้คนมากมายที่ยอมกลายเป็นทาสแห่งการแบ่งแยกชนชั้น ยอมให้ประเพณีที่ล้าหลังที่ก่อเป็นกำแพงไม่ให้ผู้คนได้ลืมตาอ้าปาก คนจนที่ถูกกดขี่จากคนรวยเลวๆ ในสังคม รีดไถกันจนไม่มีอะไรจะกิน เล่าเรียนอยู่หวังจะได้เข้าเมืองใหญ่กลับต้องออกมากลางคันเพื่อช่วยงานที่บ้าน ถูกย่าที่เป็นใหญ่ในครอบครัวดูดเงินไปไม่พอ ยังบีบบังคับให้แต่งงานอีกด้วย

ควักไส้เรื่องชนชั้นในอินเดียออกมากอง
หนังเรื่องนี้ นอกจะจากหยิบขนบและวิถีคิดของคนอินเดียบางกลุ่มออกมาตีแผ่แล้ว ก็ยังมีตัวละครที่มีความหัวใหม่ เติบโตและได้รับการศึกษามาจากเมืองนอกอย่างอเมริกา ทำให้เหมือนการหยิบเอาความคิดดั้งเดิมในบ้านมาชนกับความคิดที่แตกต่างจากนอกบ้าน อะไรประมาณนั้น
หนังเล่ายืดยาวแต่ไม่น่าเบื่อแม้สักนาที จิกกัดระบบชนชั้นวรรณะในอินเดียให้อย่างเจ็บแสบ ไม่ดูเนี้ยบแบบ Parasite ของบองจุนโฮ แต่มีความแสบๆ คันแบบ Slumdog Millionaire ของแดนนี่ บอยล์ ครึ่งหลังนี่ พลรามจัดหนักจัดเต็มด้วยพฤติกรรมและความคิดที่พลิกผันต่างไปจากครึ่งแรกอย่างสิ้นเชิง