รีวิวซีรีส์จีนแนวเทพเซียนส่งท้ายปีเรื่องใหม่ที่ต้องสนุกแน่ๆ โดยเรื่องนี้มีชื่อว่า Song of the Moon หรือ บทเพลงแห่งจันทรา ที่ดัดแปลงมาจากวนนิยายของซูเคอ แถมนักแสดงนำที่น่าสนใจอย่าง จางปินปิน ประกบ สวีลู่ และสมทบอีกหลากหลายท่านเนื้อเรื่องจะสนุกและน่าดูยังไงไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวกัน
Song of the Moon (2022)
- ชื่อไทย : บทเพลงแห่งจันทรา
- ชื่อจีน : 月歌行
- จำนวน 40 ตอน
- ประเภท โรแมนติกแฟนตาซี เทพเซียน
- ช่องทางการรับชม iQIYI / Wetv
เรื่องย่อ
เล่าเรื่องราว ของเด็กสาว หลิ่วเซ่า คุณหนูแห่งจวนหลิ่ว เธอได้พบกับชายลึกลับคนนึงใต้ต้นไม้ในจวน เขาเสนอให้เธอเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอเพื่อแลกความสุขที่ได้อยู่กับชายลึกลับเป็นเวลาสามวันเธอเลยตอบตกลง จากนั้นสิบปีต่อมาเธอนั้นได้ปรากฏพลังวิเศษบางอย่าง ทำให้เหล่าปีศาจไล่ตามล่าเธอจู่โจมเธอ จนได้นักปราบปีศาจหนุ่ม ลู่หลี ช่วยเธอไว้ และเขาเองก็คล้ายคลึงกับบุคคลลึกลับที่เธอได้เจอเมื่อครั้งยังเด็ก ทั้งสองจึงได้รู้จักกันและเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของปีศาจเธอและเขาเลยต้องเข้าสำนักปราบปีศาจอู่หยางโหว เพื่อฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งและปกป้องตัวเอง เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นยังไงต่อไปติดตามต่อพร้อมกัน
รีวิว
การดำเนินเรื่อง ค่อยๆเล่าเรื่องราวอย่างช้าๆ เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนของอดีตและตัวตนที่แท้จริงของพระนาง โดยพระเอกเองก็ยังเป็นทั้งมนุษย์ทั้งเทพทั้งเซียน ส่วนนางเอกเองก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างเรื่องพลังวิเศษที่ยังไม่เปิดเผยออกมาซึ่งเรื่องราวก็ค่อยๆเล่าออกมาทีละนิดและเสนอตัวละครสมทบมาทีละคนสองคน โดยเริ่มต้นเล่าเรื่องราวบนโลกมนุษย์ ของแต่ละตัวละครเริ่มต้นจากนางเอกก่อนที่เป็นทั้งคุณหนูเพียบพร้อมสดใสร่าเริงคนนึงแต่ชีวิตต้องเปลี่ยนไปเมื่อเธออายุครบ 18 ปี กลับถูกไล่ล่าจากปีศาจเพียงเพราะต้องการพลังวิเศษในตัวของเธอ ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของพลังนี้ ส่วนพระเอกเป็นเด็กหนุ่มกำพร้าที่ถูกอาจารย์รับเลี้ยงเพื่อรู้อดีตของตัวเองจึงต้องฟังคำแนะนำจากอาจารย์ให้ไปช่วยดูแลปกป้องนางเอกเพื่อจะได้ใช้พลังวิเศษของนางเอกดึงดาบวิเศษเพราะเพื่อจะได้รู้ถึงอดีตของตัวเองแต่ด้วยความใกล้ชิดและฝ่าฟันอุปสรรคมากมายไปด้วยกันทำให้เขาตกหลุมรักเธอ จนต้องถูกอาจารย์ตักเตือนและสาปคำสาปไว้บนตัวพระเอกเพื่อไม่ให้รักนางเอกและหลงลืมภารกิจไป เพียงถ้าเขาทำเพื่อเธอรักเธอมากเท่าไรเขาจะเจ็บปวดมากเท่านั้น (โอ๊ยกลิ่นอายดราม่าเข้ามาแล้วจ้าบอกเลยต้องเจ็บปวดแน่ๆกว่าจะได้รักกันก็ทำเอาตับคนดูพังเป็นว่าเล่นแน่ๆ) จากตอนเปิดเรื่องมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เดาๆว่าพระเอกอาจจะเป็นเทพพระจันทร์นางเอกจะเป็นอาทิตย์จึงไม่อาจอยู่ด้วยกันได้อย่างนี้หรือเปล่าต้องดูต่อ บอกเลยเพิ่งดูได้ 6 ตอนเรื่องราวยังไม่ถึงไหนก็สนุกแล้วจนอยากดูตอนต่อไปแทบบ้า
การแสดงของนักแสดง เลือกนักแสดงได้ดีอยากเห็น จางปินปิน แต่งชุดย้อนยุคมานานแล้ว เหมือนว่าไม่ได้เห็นเขาเล่นแบบนี้มานานยิ่งเป็นแนวเทพเซียนที่คอสตูมสวยๆเล่นกับ CG แบบนี้ยิ่งชอบเลย แถมให้ดูเบื้องหลังนี่ต้องบอกว่าคนนี้เจ้าพ่อลงทุน แต่ละฉากแต่ละตอนกว่าพ่อเล่นดีเนี๊ยบสุดๆโหนสลิงฉากเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกเพื่อให้เข้ากับ CG ถ้าไม่ได้เห็นเบื้องหลังนี่ไม่รู้เลยว่าทุ่มทุนทั้งแรงกายแรงใจสุดๆ และยังได้ประกบคู่กับนางเอก สวีลู่ ก็ดูเข้ากันเคมีดีการแสดงดี ทั้งหล่อทั้งสวย และเรื่องนี้ยังขนเอานักแสดงสมทบอีกหลายท่านที่มากฝีมือและงานดีค่อยสร้างสีสันให้เรื่องนี้ดูเข้มข้นขึ้นอีกเท่าตัว
แสงสีและองค์ประกอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องนี้ทุ่มทุนสร้าง CG เอฟเฟคแสงสีเสียงอลังการ การจัดแต่งโลเคชั่นสถานที่ของเบื้องหลังฉากแต่ละฉากสวยมากเนรมิตออกมาให้เห็นสื่อถึงโลกมนุษย์สวรรค์แดนเทพเซียนแดนปีศาจ บอกเลยสวยมาก คอสตูมการแต่งตัวก็ดีมากแต่ละชุด รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็เก็บดีตั้งแต่ชุดทหารองครักษ์ไปจนถึงชุดของตัวละครหลัก อาวุธประจำกายเอย อะไรเอยเหมาะสมกับตัวละครและนักแสดง แถมเพลงประกอบซีรีส์ก็ไพเราะ หนึ่งในนั้นก็มีเพลงที่ จางปินปิน ก็ร้องเองด้วย
ฉากและตอนที่ประทับใจ เป็นตอนที่นางเอกช่วยเหลือปลาปีศาจที่จริงๆแล้วเป็นราชาปีศาจเผ่าภูตวารี ปลอมตัวเป็นปลาเพื่อต้องการเลือดนางเอกแต่ด้วยความใจดีนางเอกก็ให้เลือดกับเขาเพราะเป็นปีศาจนิสัยดี พระเอกก็รู้ตัวตนที่แท้จริงของราชาปีศาจ (แอบบอกว่าราชาปีศาจหล่องานดีมากน้องชายของเขาก็ยังหล่อสุดๆ) จนลูกศิษย์ในสำนักรู้และรวมตัวกันเพื่อจับปีศาจนางเอกจึงขวางเพื่อช่วยเหลือราชาปีศาจ จากนั้นพระเอกปลอมตัวเป็นเทพเซียนเพื่อช่วยทั้งสองคนออกจากตรงนั้น ทำให้ศิษย์ในสำนักไม่เชื่อว่าจะมีเซียนมาช่วยปีศาจได้ จึงไปฟ้องเจ้าสำนักเจ้า เจ้าสำนักได้รวบรวมลูกศิษย์ในสำนักไปหอดาบเพื่อไถ่ถามเซียนอาวุโสว่าใครในที่นี้ปลอมตัวเป็นเซียน แต่เทพเซียนอาวุโส กับตอบว่าไม่มีปลอม ทำเอานางเอกกับพระเอกตกใจว่าทำไมเซียนอาวุโสถึงโกหก ฮ่าๆๆบอกเลยเทพเซียนอาวุโสไม่ได้โกหกนะจ๊ะเพราะพระเอกเป็นเซียนจริงแต่ไม่รู้ตัวตน ที่แท้จริงของตัวเอง เป็นฉากที่พระนางเหวอและตลกมากๆ
